ชีวประวัติและการศึกษา
บิดาชื่อว่า “สุกโกทนะ” มารดาชื่อว่า “กีสาโคตมี” มีฐานะเป็นพระอนุชาของพระพุทธเจ้า
มีพระสหายสนิท คือ เจ้าชายภัททิยะ อนุรุทธะ ภคุ
กิมพิละ เทวทัตแห่งเมืองเทวทหะด้วย
แต่ท่านพิเศษกว่าตรงที่เป็นสหชาต(ผู้เกิดพร้อมกัน)ของพระพุทธเจ้า
ท่านออกบวชพร้อมกับภัททิยะ อนุรุทธะ ภคุ กิมพิละ เทวทัต และอุบาลี
ที่อนุปิยอัมพวัน แคว้นมัลละ
มูลเหตุที่ทำให้ท่านบวช เพราะเป็นจังหวะที่พระพุทธองค์เสด็จไปโปรดพระประยูรญาติ
จึงปรึกษากันแล้วพร้อมใจกันบวชตามเป็นจำนวนมาก
ท่านได้บรรลุธรรมช้ากว่าเจ้าชายศากยะ
เพราะว่าท่านไม่มีเวลาปฏิบัติธรรม
เนื่องจากต้องขวนขวายอยู่กับการอุปัฏฐากพระพุทธเจ้า ท่านได้บรรลุเป็นพระโสดาบัน
เพราะได้ฟังธรรมของพระปุณณมันตานีบุตร และได้บรรลุพระอรหันต์เมื่ออายุได้ ๘๐
ปี ก่อนมีการทำปฐมสังคายนา ภายหลังจากพระพุทธองค์เสด็จดับขันธปรินิพพานได้ ๓ เดือน
รวมเวลาที่ท่านเป็นพระอริยบุคคลชั้นโสดาบันอยู่นานถึง ๔๒ ปี
ท่านบรรลุพระอรหันต์แปลกกว่าสาวกองค์อื่นๆ
คือไม่อยู่ในอิริยาบถทั้ง ๔ ได้แก่ขณะที่ท่านนั่งอยู่บนเตียงแล้วจึงค่อยเปลี่ยนการเอนกายลงด้วยตั้งใจว่า จักนอนพักผ่อนสักครู่หนึ่ง
พอยกเท้าพ้นจากพื้นแต่ศีรษะยังไม่ทันถึงหมอน
ระหว่างนี้เองจิตของท่านก็หลุดพ้นจากอาสวะทั้งหลายเพราะคลายความยึดมั่นลงได้ ท่านองค์เดียวเท่านั้นที่บรรลุพระอรหันต์ที่ไม่อยู่ในอิริยาบถ
๔ คือ ยืน เดิน นั่ง และนอน และหลังจากบรรลุพระอรหันต์แล้วไม่นานก็รุ่งเช้า
เมื่อฉันภัตตาหารเสร็จ ขณะที่พระสงฆ์ ๔๙๙ องค์
ได้เข้าไปนั่งรอท่านอยู่ในมณฑปที่ถ้ำสัตตบรรณ ข้างภูเขา เวภาระ เมืองราชคฤห์ แคว้นมคธนั้น
ท่านก็ได้แสดงฤทธิ์ให้ปรากฏเพื่อประกาศให้คณะสงฆ์ได้ทราบว่าท่านได้บรรลุพระอรหันต์แล้ว
ด้วยการดำดินแล้วไปโผล่ขึ้นตรงอาสนะที่จัดเตรียมไว้ให้ท่านนั่ง
จากนั้นการทำสังคายนาจึงได้เริ่มขึ้น
เพราะเหตุที่พระอานนทเถระ
เป็นผู้ทรงธรรมวินัยมีความรอบคอบหนักในเหตุผล มีปัญญาแก้ปัญหาต่าง ๆ และอุปัฏฐากพระศาสดา โดยไม่หวังประโยชน์ส่วนตนหวังให้เกิดผลแก่พระพุทธศาสนาในอนาคตกาลภายภาคหน้าองค์สมเด็จพระบรมศาสดา
จึงทรงสรรเสริญท่าน โดยอเนกปริยายและตั้งไว้ในเอตทัคคะว่า เป็นผู้เลิศกว่าภิกษุทั้งหลายผู้เป็นพหุสูตร
มีสติมีคติ
มีธิติ
และเป็น
พุทธอุปัฏฐาก
บั้นปลายชีวิตท่านมีอายุถึง ๑๒๐ ปี จึงปรินิพพานในอากาศ
เหนือแม่น้ำโรหิณี ซึ่งเป็นเขตแดนระหว่างพระญาติทั้งสองฝ่าย คือ
เจ้าศากยะและเจ้าโกลิยะ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น