วันพุธที่ 16 พฤษภาคม พ.ศ. 2555

พระอานนทเถระ เอตทัคคะ : เป็นผู้เลิศกว่าภิกษุทั้งหลายผู้เป็นพหุสูตร มีสติ มีคติ มีธิติ และเป็นพุทธอุปัฏฐาก

ชีวประวัติและการศึกษา

                บิดาชื่อว่าสุกโกทนะมารดาชื่อว่า  กีสาโคตมีมีฐานะเป็นพระอนุชาของพระพุทธเจ้า มีพระสหายสนิท คือ เจ้าชายภัททิยะ อนุรุทธะ ภคุ    
กิมพิละ เทวทัตแห่งเมืองเทวทหะด้วย แต่ท่านพิเศษกว่าตรงที่เป็นสหชาต(ผู้เกิดพร้อมกัน)ของพระพุทธเจ้า
                ท่านออกบวชพร้อมกับภัททิยะ  อนุรุทธะ ภคุ กิมพิละ เทวทัต และอุบาลี ที่อนุปิยอัมพวัน       แคว้นมัลละ มูลเหตุที่ทำให้ท่านบวช เพราะเป็นจังหวะที่พระพุทธองค์เสด็จไปโปรดพระประยูรญาติ จึงปรึกษากันแล้วพร้อมใจกันบวชตามเป็นจำนวนมาก
                ท่านได้บรรลุธรรมช้ากว่าเจ้าชายศากยะ เพราะว่าท่านไม่มีเวลาปฏิบัติธรรม เนื่องจากต้องขวนขวายอยู่กับการอุปัฏฐากพระพุทธเจ้า ท่านได้บรรลุเป็นพระโสดาบัน เพราะได้ฟังธรรมของพระปุณณมันตานีบุตร และได้บรรลุพระอรหันต์เมื่ออายุได้ ๘๐ ปี ก่อนมีการทำปฐมสังคายนา ภายหลังจากพระพุทธองค์เสด็จดับขันธปรินิพพานได้ ๓ เดือน รวมเวลาที่ท่านเป็นพระอริยบุคคลชั้นโสดาบันอยู่นานถึง ๔๒ ปี
            ท่านบรรลุพระอรหันต์แปลกกว่าสาวกองค์อื่นๆ คือไม่อยู่ในอิริยาบถทั้ง ๔ ได้แก่ขณะที่ท่านนั่งอยู่บนเตียงแล้วจึงค่อยเปลี่ยนการเอนกายลงด้วยตั้งใจว่า  จักนอนพักผ่อนสักครู่หนึ่ง พอยกเท้าพ้นจากพื้นแต่ศีรษะยังไม่ทันถึงหมอน ระหว่างนี้เองจิตของท่านก็หลุดพ้นจากอาสวะทั้งหลายเพราะคลายความยึดมั่นลงได้ ท่านองค์เดียวเท่านั้นที่บรรลุพระอรหันต์ที่ไม่อยู่ในอิริยาบถ ๔ คือ ยืน เดิน นั่ง และนอน และหลังจากบรรลุพระอรหันต์แล้วไม่นานก็รุ่งเช้า เมื่อฉันภัตตาหารเสร็จ ขณะที่พระสงฆ์ ๔๙๙ องค์ ได้เข้าไปนั่งรอท่านอยู่ในมณฑปที่ถ้ำสัตตบรรณ ข้างภูเขา     เวภาระ เมืองราชคฤห์ แคว้นมคธนั้น ท่านก็ได้แสดงฤทธิ์ให้ปรากฏเพื่อประกาศให้คณะสงฆ์ได้ทราบว่าท่านได้บรรลุพระอรหันต์แล้ว ด้วยการดำดินแล้วไปโผล่ขึ้นตรงอาสนะที่จัดเตรียมไว้ให้ท่านนั่ง จากนั้นการทำสังคายนาจึงได้เริ่มขึ้น
            เพราะเหตุที่พระอานนทเถระ เป็นผู้ทรงธรรมวินัยมีความรอบคอบหนักในเหตุผล มีปัญญาแก้ปัญหาต่าง ๆ และอุปัฏฐากพระศาสดา โดยไม่หวังประโยชน์ส่วนตนหวังให้เกิดผลแก่พระพุทธศาสนาในอนาคตกาลภายภาคหน้าองค์สมเด็จพระบรมศาสดา จึงทรงสรรเสริญท่าน โดยอเนกปริยายและตั้งไว้ในเอตทัคคะว่า เป็นผู้เลิศกว่าภิกษุทั้งหลายผู้เป็นพหุสูตร มีสติมีคติ มีธิติ และเป็น พุทธอุปัฏฐาก
บั้นปลายชีวิตท่านมีอายุถึง ๑๒๐ ปี จึงปรินิพพานในอากาศ เหนือแม่น้ำโรหิณี ซึ่งเป็นเขตแดนระหว่างพระญาติทั้งสองฝ่าย คือ เจ้าศากยะและเจ้าโกลิยะ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น